![]() |
ความหมายและความสำคัญของมารยาทไทย
|
||
มารยาท หมายถึง กิริยา วาจาที่สุภาพเรียบร้อย ที่บุคคลพึงปฏิบัติในสังคม โดยมีระเบียบแบบแผนอันเหมาะสมตามกาลเทศะ มารยาทไทยถือเป็นเอกลักษณ์สำคัญของคนไทย เป็นวัฒนธรรมที่ปฏิบัติสืบทอดต่อกันมา การปฏิบัติตนตามมารยาทไทยส่งผลให้สังคมเกิดความสงบสุขและมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย
|
|||
![]() |
มารยาทของสังคมไทย
|
||
คนไทยได้สืบทอดมารยาทไทยที่ดีงามมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน การแสดงมารยาทไทยให้เหมาะสมกับกาลเทศะถือเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ ทั้งนี้นอกจากจะทำให้มารยาทไทยที่ดีงามยังคงดำรงอยู่ต่อไปแล้ว ยังทำให้ต่างชาติได้เห็นถึงความเป็นชาติที่มีอารยธรรมของไทยอีกด้วย มารยาทไทยที่สำคัญ ได้แก่
|
|||
![]() |
|||
การแสดงความเคารพ มีหลายลักษณะ เช่น การไหว้ การกราบ การคำนับ การแสดงความเคารพจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับผู้ที่จะรับการเคารพด้วยว่าอยู่ในฐานะใด และอยู่ในโอกาสใด จึงจะแสดงความเคารพให้เหมาะสม
|
|||
1. การแสดงความเคารพพระรัตนตรัย ปฏิบัติโดยการไหว้หรือกราบแบบเบญจางคประดิษฐ์ตามความเหมาะสมของสถานที่
1.1 การไหว้ คือ การกระ พุ่มมือเล็กน้อยไห้ปลายนิ้วมือทั้งสองข้างชิดกัน ฝ่ามือทั้งสองประกบเสมอกันแนบระหว่างอก ปลายนิ้วเฉียงขึ้นประมาณ 45 องศา แขนแนบลำตัวไม่กางศอก แล้วยกมือขึ้นพร้อมกับค้อมศีรษะลงระดับสะเอวให้หัวแม่มือจรดระหว่างคิ้ว ปลายนิ้วชี้แนบส่วนบนของหน้าผาก
![]() การไหว้พระ
1.2 การกราบแบบเบญจางคประดิษฐ์ คือ การใช้อวัยวะทั้ง 5 ได้แก่ หน้าผาก 1 มือและข้อศอกทั้ง 2 และเข่าทั้ง 2 สัมผัสกับพื้น การกราบมี 3 จังหวะ ดังนี้
1.2.1 ท่าเตรียม ชายและหญิงแตกต่างกัน
ชาย ให้นั่งท่าเทพบุตร คือ นั่งคุกเข่าตัวตรง ปลายเท้าตั้ง ส้นเท้าและปลายเท้าชิดกัน นั่งทับบนส้นเท้า เข่าทั้งสองห่างกันพอประมาณ มือทั้งสองวางคว่ำเหนือเข่าทั้งสองข้างนิ้วชิดกัน
หญิง ให้นั่งท่าเทพธิดา คือ นั่งคุกเข่าตัวตรงปลายเท้าราบ เข่าถึงปลายเท้าชิดกันราบไปกับพื้น นั่งบนส้นเท้า มือทั้งสองวางคว่ำเหนือเข่าทั้งสองข้างนิ้วชิดกัน
1.2.2 ท่ากราบ มีอยู่ 3 จังหวะ
จังหวะที่ 1 (อัญชลี) ชายและหญิงยกมือขึ้นประนมมือไว้ระหว่างอก ปลายนิ้วชิดกันตั้งแนบตัวไม่กางศอก ปลายมือเบนจากอกไปข้างหน้า 45 องศา
จังหวะที 2 (วันทนา หรือ วันทา) ชายและหญิงปฏิบัติเหมือนกัน คือ ไหว้ ยกมือที่ประนมขึ้น พร้อมกับก้มศีรษะลงรับมือเล็กน้อยโดยให้ปลายนิ้วหัวแม่มือทั้งสองอยู่ระหว่างคิ้ว ปลายนิ้วชี้จรดหน้าผาก
จังหวะที่ 3 (อภิวาท) ทอดมือทั้งสองลงพร้อมๆ กัน ให้มือและแขนทั้งสองข้างราบกับพื้น คว่ำมือห่างกันเล็กน้อย พอให้หน้าผากจรดพื้นระหว่างมือทั้งสอง
ชาย ศอกทั้งสองข้างต่อจากเข่าราบไปกับพื้น หลังไม่โก่ง
หญิง ศอกทั้งสองข้างคร่อมเข่าเล็กน้อย ราบไปกับพื้น หลังไม่โก่ง
1.2.3 ท่าจบ เมื่อกราบอย่างเบญจางคประดิษฐ์ 3 ครั้งแล้ว ทั้งชายและหญิงให้ยกมือขึ้นประนมไหว้ในท่าวันทา คือ นิ้วหัวแม่มือจรดระหว่างคิ้ว ปลายนิ้วชี้จรดหน้าผากพร้อมกับก้มศีรษะลงรับมือเล็กน้อย แล้ววางมือคว่ำเหนือเข่าทั้งสองข้างในท่าเตรียมกราบ
![]() ![]() การกราบแบบเบญจางคประดิษฐ์
|
|||
2. การแสดงความเคารพต่อบุคคล ปฏิบัติดังนี้
2.1 การไหว้ผู้มีพระคุณและผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ ได้แก่ พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ครู และผู้ที่เคารพนับถือ ให้ประนมมือแล้วยกขึ้นพร้อมกับค้อมศีรษะลงให้หัวแม่มือจรดปลายจมูก ปลายนิ้วชี้แนบระหว่างคิ้ว
![]() การไหว้ผู้มีพระคุณและผู้ใหญ่
2.2 การไหว้บุคคลทั่วไปที่เคารพนับถือหรือผู้ที่มีอายุมากกว่าเล็กน้อย ให้ประนมมือ แล้วยกขึ้นพร้อมกับค้อมศีรษะลง ให้หัวแม่มือจรดปลายคาง ปลายนิ้วชี้แนบปลายจมูก
![]() การไหว้บุคคลทั่วไปที่เคารพนับถือหรือผู้ที่มีอายุมากกว่าเล็กน้อย
2.3 การกราบผู้ใหญ่ เป็นการกราบผูมีพระคุณและผู้ที่มีอายุมาก เช่น พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ครู อาจารย์ และผู้ที่เราเคารพ ผู้กราบทั้งชายและหญิงให้นั่งพับเพียบทอดมือทั้งสองข้างลงพร้อมกัน ให้แขนทั้งสองคร่อมเข่าที่อยู่ด้านล่างเพียงเข่าเดียว มือประนมตั้งกับพื้นไม่แบบมือ ค้อมตัวลงให้หน้าผากแตะส่วนบนของมือที่ประนม ในขณะกราบไม่กระดกนิ้วมือขึ้นรับหน้าผาก กราบเพียงครั้งเดียว จากนั้นเปลี่ยนอิริยาบถโดยการนั่งสำรวมประสานมือ แล้วเดินเข่าถอยหลังพอประมาณจึงลุกขึ้น
|
|||
![]() |
|||
1. การยืนสนทนากับผู้ใหญ่ ให้ยืนตรง เท้าชิด ประสานมือกันอยู่ต่ำกว่าระดับเอว ค้อมตัวเล็กน้อย ไม่ควรยืนชิดหรือห่างผู้ใหญ่จนเกินไป
![]() ยืนตรงรับคำสั่ง การยืนสนทนากับผู้ใหญ่
2. การยืนเคารพธงชาติและเพลงชาติ ให้ยืนตรงแสดงความเคารพโดยหันหน้าไปทางธงชาติ เมื่อเพลงจบให้ค้อมศีรษะคำนับ
|
|||
![]() |
|||
1. การเดินตามลำพัง ให้เดินอย่างสุภาพ หลังตรง ก้าวเท้าไม่ยาวไม่สั้นเกินไป ควรแกว่งแขนแต่พองาม ไม่เดินลงส้นให้เสียงดัง ถ้าเดินผ่านหน้าผู้ใหญ่ที่กำลังยืนอยู่ ควรปล่อยมือไว้ข้างลำตัวและค้อมตัวลงเมื่อใกล้ถึงผู้ใหญ่
2. การเดินกับผู้ใหญ่ ให้เดินทางซ้ายเยื้องมาทางหลังของผู้ใหญ่ อยู่ในลักษณะนอบน้อมไม่ส่ายตัว ไม่โยกศีรษะ ถ้าเป็นการเดินระยะใกล้ๆ มือทั้งสองควรประสานกัน
![]() การเดินกับผู้ใหญ่
|
|||
![]() |
|||
1. การนั่งเก้าอี้ ให้นั่งตัวตรง ด้วยกิริยาสำรวม หลังพิงพนักเก้าอี้ เท้าวางชิดกัน เข่าแนบชิดกัน มือทั้งสองวางบนหน้าขา ถ้าเป็นเก้าอี้ท้าวแขน เมื่อนั่งตามลำพังจะเอาแขนพาดบนท้าวแขนก็ได้ ในกรณีนั่งเก้าอี้ต่อหน้าผู้ใหญ่ ให้น้อมตัวลงเงยหน้าเล็กน้อย มือทั้งสองข้างประสานกันวางบนหน้าขา
![]() การนั่งเก้าอี้ต่อหน้าผู้ใหญ่ การนั่งเก้าอี้ในพิธีการ
2. การนั่งพับเพียบ ให้นั่งในลักษณะสุภาพ ตัวตรง เก็บปลายเท้าโดยเบนปลายเท้าเข้าหาสะโพก มือทั้งสองข้างประสานกัน วางไว้บนหน้าขา ขาขวาทับขาซ้าย วางมือที่ประสานบนหน้าขาซ้าย
วิธีประสานมือ ให้ปฏิบัติในอาการสำรวม อาจใช้อย่างใดอย่างหนึ่งดังนี้
- ใช้มือซ้ายหงาย มือขวาคว่ำทับ หรือมือขวาหงายมือซ้ายคว่ำทับ
- ใช้มือทั้งสองคว่ำทับกัน จะเป็นมือใดทับมือใดก็ได้
- สอดนิ้วระหว่างช่องนิ้วของแต่ละมือคล้ายการประนมมืออย่างหลวมๆ
3. การนั่งคุกเข่า ให้นั่งตัวตรง วางก้นบนส้นเท้าปลายเท้าตั้ง มือทั้งสองประสานกัน หรือจะวางคว่ำบนหน้าขาก็ได้
|
|||
![]() |
|||
การนอน เป็นเรื่องส่วนตัวเป็นการพักผ่อนร่างกาย ไม่มีพิธีการหรือระเบียบ แต่ควรคำนึงถึงความปลอดภัย
1. การนอนหงาย นอนตัวตรง ศีรษะหนุนหมอนให้สูงกว่าลำตัวเล็กน้อย หรือพอประมาณ เท้าและขาทั้งสองชิดกัน มือทั้งสองข้างวางไว้ใต้หน้าอกเล็กน้อย หรือวางมือและแขนทั้งสองข้างแนบลำตัว ปล่อยลักษณะผ่อนคลาย
2. การนอนแบบตะแคง นิยมให้นอนตะแคงขวา มือขวาหนุนศีรษะ มือซ้ายแนบลำตัวส่วนบน เท้าทั้งสองเหยียดตรง โดยเท้าซ้ายทับเท้าขวา เป็นการนอนลักษณะของพระพุทธเจ้าที่ทรงเจริญสติ ทำให้มีสติในการนอน
กรณีนอนกับผู้ใหญ่ เช่น บิดา มารดา ควรนอนให้ศีรษะต่ำกว่าท่าน ไม่ควรนอนเสมอกัน เพื่อเป็นการแสดงความเคารพท่าน
|
|||
![]() |
|||
การรับของจากผู้ใหญ่และการส่งของให้ผู้ใหญ่ของที่จะรับหรือส่ง มี 2 ลักษณะคือ ของหนักและของเบา ของหนักให้ถือสองมือ ของเบาให้ถือมือเดียว โดยถือด้วยมือขวา มือซ้ายปล่อยข้างตัวของที่จะรับหรือส่งควรถือตามขวาง ถ้าเป็นสมุดหรือหนังสือควรหันทางสันออกนอกตัว
|
|||
1. การรับสิ่งของ
1.1 การรับสิ่งของขณะผู้ใหญ่ยืน ผู้ชายเดินเข้าไปห่างจาก ผู้ใหญ่พอประมาณ ยืนตรงไหว้ 1 ครั้ง ตามระดับของผู้ส่งสิ่งของ ก้าวเท้าขวาไปข้างหน้า เปิดส้นเท้าซ้าย รับสิ่งของ ภอยเท้าขวากลับ ยืนตรง ถอยหลังพอประมาณแล้วหันหลังกลับ อีกแบบหนึ่ง เดินเข้าไปห่างจากผู้ใหญ่พอประมาณ ยืนตรงคำนับ ก้าวเท้าขวาไปข้างหน้า เปิดส้นเท้าซ้าย โน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย รับสิ่งของด้วยมือขวา มือซ้ายแนบลำตัว แล้วถอยเท้าขวากลับ ยืนตรงคำนับอีก 1 ครั้ง ถอยพอประมาณแล้วหันหลังกลับ ผู้หญิงเดิน เข้าไปห่างจากผู้ใหญ่พอประมาณ ไหว้ตามระดับของผู้ส่งสิ่งของ ห้าวเท้าขวาไปข้างหนาย่อตัวรับสิ่งของ แล้วก้าวเท้าขวา ยืนตรง ถอยพอประมาณ จึงหันหลังกลับ
1.2 การรับสิ่งของขณะผู้ใหญ่นั่งเก้าอี้ ผู้ชายเดินเข้าไปห่างจากผู้ใหญ่พอประมาณยืนตรง คำนับ ก้าวเท้าขวาไปข้างหน้า ลงเข่าซ้าย รับสิ่งของด้วยมือ มือซ้ายแนบลำตัว ถอยเท้าขวากลับ ยืนตรง คำนับอีก 1 ครั้ง ถอยพอประมาณ จึงหันหลังกลับ อีกแบบหนึ่ง เดินเข้าไปห่างจากผู้ใหญ่พอประมาณ ยืนตรง ค้อมตัวไหว้ตามระดับของผู้ส่งของ ก้าวเท้าขวาไปข้างหน้า ลงเข่าซ้าย รับส่งของ ถอยเท้าขวากลับ ยืนตรง ถอยพอประมาณ จึงหันหลังกลับ ถ้าเป็นสิ่งของหนักให้รับด้วยมือขวาแล้วใช้มือซ้ายช่วยประคอง ผู้หญิง เดินเข้าไปห่างจากผู้ใหญ่พอประมาณ ยืนตรง ก้าวเท้าขวาไปข้างหน้า ลงเข่าซ้าย เปิดส้นเท้าขวาเล็กน้อยพร้อมกับไหว้ตามระดับผู้ส่งของ รับสิ่งของด้วยมือขวา มือซ้ายแนบลำตัว ถอยเท้าขวากลับ ยืนตรง ถอยพอประมาณ จึงหันหลังกลับ ถ้าเป็นสิ่งของหนักให้รับด้วยมือขวาแล้วใช้มือแล้วใช้มือซ้ายช่วยประคอง
1.3 การรับสิ่งสิ่งของขณะผู้ใหญ่นั่งกับพื้น ชายและหญิงปฏิบัติ เหมือนกัน ถ้าเป็นผู้ใหญ่ที่มีพระคุณหรืออาวุโสมาก ให้เดินเข่าไปใกล้ผู้ใหญ่พอประมาณ นั่งพับเพียบขาขวาทับขาซ้าย กราบผู้ใหญ่ 1 ครั้ง แล้วรับสิ่งของ วางสิ่งของเยื้องเข่าขวาเล็กน้อย ถ้าผู้ใหญ่ปราศรัยด้วยก็ให้นั่งในลักษณะสำรวมเสร็จแล้วกราบอีก 1 ครั้ง ถือสิ่งของเดินเข่าถอยพอประมาณลุกขึ้น ถอยพอประมาณจึงหันหลังกลับ
|
|||
2. การส่งสิ่งของ
1. การส่งสิ่งของขณะผู้ใหญ่ยืน ผู้ชาย ถือ ของเดินเข้าไปห่างจากผู้ใหญ่พอประมาณ ยืนตรงคำนับ แล้วก้าวเท้าขวาไปข้างหน้า พร้อมกับค้อมตัวเล็กน้อย ส่งสิ่งของเสร็จแล้ว ถอยเท้าขวากลับ ยืนตรงคำนับ 1 ครั้ง ถอยพอประมาณ จึงหันหลังกลับ อีกแบบหนึ่ง ถือสิ่งของเดินเข้าไปห่างผู้ใหญ่พอประมาณ ยืนตรง ก้าวเท้าขวาไปข้างหน้า พร้อมกับค้อมตัวเล็กน้อย ส่งสิ่งของแล้วถอยเท้าขวากลับ แสดงความเคารพด้วยการไหว้ 1 ครั้ง แล้วถอยพอประมาณ จึงหันหลังกลับ ผู้หญิง เดินเข้าไปห่างจากผู้ใหญ่พอประมาณ ยืนตรง ก้าวเท้าขวาไปข้างหน้าพร้อมกับย่อตัวเล็กน้อย ส่งสิ่งของ ไหว้ในขณะที่ย่อตัวอยู่ แล้วถอยเท้าขวากลับ ยืนตรง ถอยพอประมาณ จึงหันหลังกลับ
![]() ![]() ถือสิ่งของ ยืนตรง คำนับ ก้าวเท้าขวา ส่งสิ่งของ ถอยเท้า ยืนตรง คำนับ
2. การส่งสิ่งของขณะผู้ใหญ่นั่งเก้าอี้ ผู้ชาย ถือสิ่งของเดินเข้าไปห่างจากผู้ใหญ่พอประมาณ ยืนตรง ก้าวเท้าขวาลงเข่าซ้ายส่งของเสร็จแล้วถอยเท้าขวากลับพร้อมกับลุกขึ้นยืนตรง ไหว้ 1 ครั้ง ถอยพอประมาณ จึงหันหลังกลับ ผู้หญิง ถือ ของเดินเข้าไปห่างจากผู้ใหญ่พอประมาณ ยืนตรง ก้าวเท้าขวาไปข้างหน้า ลงเข่าซ้ายส่งสิ่งของ ไหว้ ขณะลงเข่า เสร็จแล้วยืนตรง ถอยพอประมาณ จึงหันหลังกลับ
3. การส่งสิ่งของขณะผู้ใหญ่นั่งกับพื้น ชายและหญิงปฏิบัติ เหมือนกัน ให้ผู้ที่เข้าไปส่งของเดินเข่า ถือสิ่งของเข้าไปห่างจากผู้ใหญ่พอประมาณนั่งพับเพียบขาขวาทับขา (ให้หัวเข่าซ้ายตรงกับผู้ใหญ่) วางสิ่งของเยื้องเข่าขวาเล็กน้อย แล้วกราบผู้ใหญ่ ๑ ครั้ง (ไม่แบมือ) ส่งของให้ผู้ใหญ่ ถ้าผู้ใหญ่ปราศรัยด้วยก็ให้นั่งลักษณะสำรวม เมื่อจะลากลับกราบอีก 1 ครั้ง ถอยโดยวิธีเดินเข่า ห่างจากผู้ใหญ่พอประมาณลุกขึ้นยืน จึงหันหลังกลับ
|
|||
![]() |
|||
1. การประเคนของแด่พระสงฆ์ ถ้าเป็นของที่พอยกได้ใช้ 2 มือยกแล้วประเคนในระยะหัตถบาส ถ้าเป็นของใหญ่เกินกว่าที่จะยกได้ เช่น เรือ รถ ก็ไม่ต้องยกเพียงกล่าวคำถวายหรือถวายเอกสารประกอบสิ่งของนั้นก็พอแล้ว วิธีการประเคนของชายและหญิงปฏิบัติดังนี้
1.1 กรณีพระสงฆ์นั่งกับพื้นถือของเดินเข่าเข้าไปได้ระยะหัตถบาส (คำว่า หัตถบาส แปลว่า "บ่วงมือ" หมายถึง ระยะระหว่างผู้รับประเคนและผู้ถวายไม่เกิน 1 ศอก) แล้วยกของขึ้นประเคน ผู้ชายจะประเคนของแด่พระสงฆ์ในลักษณะมือต่อมือได้เลย ผู้หญิงจะ ต้องวางบนผ้าที่พระสงฆ์ทอดออกมา จะไหว้หรือกราบแล้วแต่กาลเทศะ ถอยโดยวิธีเดินเข่า เมื่อห่างพอประมาณค่อยลุกขึ้นหันตัวกลับ
1.2 กรณีพระสงฆ์นั่งบนเก้าอี้หรืออาสน์สงฆ์ไม่ต้องเดินเข่า แต่เข้าไปให้ได้ระยะหัตถบาส และประเคนตามวิธีดังกล่าวข้างต้น ถ้ามีของถวายหลายอย่าง ควรประเคนทีละอย่าง แต่ถ้ามีถาดหรือภาชนะใส่ไว้แล้วก็ประเคนทั้งถาดหรือภาชนะ
![]() การประเคนสิ่งของแด่พระภิกษุ
2. การรับสิ่งของจากพระภิกษุ ให้เข้าไปใกล้ในระยะพอประมาณ แล้วแสดงความเคารพ ผู้ชายให้ยื่นมือรับสิ่งของ ผู้หญิงให้เอื้อมมือขวารับของที่พระภิกษุวางไว้ตรงหน้าด้วยอาการสำรวม
|
|||
![]() |
|||
1. ถ้านั่งบนเก้าอี้ ให้นั่งตัวตรง ไม่เท้าศอกบนโต๊ะอาหาร ถ้านั่งกับพื้น หญิงนั่งพับเพียบ ผู้ชายนั่งท่าถนัดที่สุภาพ ตัวตรง ไม่เท้าแขนกับพื้น
2. ถ้ามีผู้ใหญ่ร่วมรับประทานอาหารให้นั่งรอท่านก่อน และให้ท่านลงมือรับประทานอาหารก่อนจึงรับประทานตาม
3. การรับประทานอาหารร่วมโต๊ะให้ใช้ช้อนกลาง ไม่ควรหยิบสิ่งของข้ามหน้าผู้อื่น ควรให้ผู้อยู่ใกล้หยิบให้และกล่าวขอบคุณ
4. รับประทานอาหารด้วยอาการสุภาพ ไม่มูมมาม ไม่เคี้ยวอาหารเสียงดัง ไม่คุยขณะอาหารยังอยู่ในปาก
5. เมื่อรับประทานอาหารเสร็จให้รวบช้อนส้อม ไม่แสดงอาการอิ่มด้วยการผลักจานออกจากตัว
|
|||
![]() |
|||
1. การทักทาย มารยาทของสังคมไทยมักทักทายกันด้วยการแสดงความเคารพ เช่น การยกมือไหว้ผู้อาวุโส และกล่าวคำว่า สวัสดี ผู้หญิง "สวัสดีค่ะ" ผู้ชาย "สวัสดีครับ" ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของสังคมไทยที่ควรอนุรักษ์
2. การสนทนา ใช้ถ้อยคำที่สุภาพเรียบร้อย มีคำลงท้ายว่า ครับ ครับผมไม่ควรสนทนาด้วยถ้อยคำที่ดังจนเกินไป เพราะอาจรบกวนบุคคลอื่นได้ ใช้คำที่แสดงความเคารพต่อกัน เช่น "ครับ" "ค่ะ" เราควรใช้คำพูด ขอบใจ ขอบคุณ ขอบพระคุณ กับผู้ที่มีน้ำใจต่อเรา ถ้าเพื่อนใช้คำว่า ขอบใจ หรือ ขอบคุณ และใช้คำพูดว่า ขอโทษ เมื่อทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย
3. การใช้คำพูด ควรใช้ให้เหมาะสมกับกาลเทศะ ดังนี้
3.1 การใช้คำพูดสนทนาและคำสรรพนามกับพระภิกษุให้เหมาะสมกับวัยวุฒิและคุณวุฒิของท่าน เช่น หลวงตา หลวงพ่อ หลวงพี่ และใช้คำพูดเรียกตนเองด้วยคำสุภาพ เช่น กระผม ดิฉัน หนู
3.2 การใช้คำพูดกับผู้ใหญ่และผู้ที่เคารพนับถือ ควรมีคำนำหน้านามแทนท่านเสมอ เช่น คุณพ่อ คุณแม่ คุณครู ซึ่งเป็นการให้เกียรติ และแสดงความเคารพท่าน และใช้ถ้อยคำสุภาพเรียบร้อย เช่น กระผม ผม ฉัน ดิฉัน หนู
3.3 การใช้ถ้อยคำกับเพื่อน พูดจาด้วยถ้อยคำที่สุภาพต่อกัน ไม่ใช้ถ้อยคำที่หยาบคายหรือกระด้างต่อกัน
|
|||
![]() |
|||