กฎหมายที่เกี่ยวกับการทะเบียนราษฎร
    จุดประสงค์การเรียนรู้ 
บอกวิธีปฏิบัติตนตามกฎหมายทะเบียนราษฎรได้
         กฎหมายเกี่ยวกับทะเบียนราษฎร เป็นกฎหมายที่เกี่ยวกับทะเบียนและทะเบียนบ้าน  เป็นกฎหมายสำคัญทีกำหนดระเบียบในการแจ้งเกิด  การแจ้งตาย  และการย้ายที่อยู่ การจัดทำทะเบียนราษฎร  จึงเป็นกฎหมายที่ใกล้ตัว  เกี่ยวข้องกับตนเอง  และสังคมเป็นอย่างมาก  กฎหมายเกี่ยวกับทะเบียนราษฎรมีสาระสำคัญ ดังนี้


การแจ้งเกิด

การแจ้งเกิด เมื่อมีคนเกิดให้แจ้งเกิดดังต่อไปนี้
          1.1 คนเกิดในบ้าน ให้เจ้าบ้านหรือบิดามารดาแจ้งต่อนายทะเบียนผู้รับแจ้งแห่งท้องที่ที่คนเกิดในบ้านภาย 15 วันนับแต่วันที่เกิด 
          1.2 คนเกิดนอกบ้าน ให้บิดาหรือมารดาแจ้งต่อนายทะเบียน ผู้รับแจ้งแห่งท้องที่ที่มีคนเกิดนอกบ้าน หรือแห่งท้องที่ที่จะพึงแจ้งได้ภายใน 15 วันนับแต่วันที่เกิด ในกรณีจำเป็นไม่อาจแจ้งได้ตามกำหนดให้แจ้งภายหลังได้ แต่ต้องไม่เกิน 30 วันนับแต่วันที่เกิด
          1.3 ผู้ที่พบเด็กในสภาพแรกเกิดหรือเด็กอ่อนซึ่งถูกทอดทิ้ง ให้นำเด็กนั้นไปส่งและแจ้งต่อพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่ประชาสงเคราะห์แห่งท้องที่ที่พบเด็กนั้นโดยเร็ว
          สถานที่แจ้งเกิด
          1. ในเขตเทศบาล ให้แจ้งที่สำนักทะเบียนท้องถิ่นซึ่งตั้งอยู่ ณ สำนักงานเทศบาล
          2. นอกเขตเทศบาล ให้แจ้งที่สำนักทะเบียนตำบล ซึ่งได้แก่ บ้านของกำนันผู้ใหญ่บ้าน หรือข้าราชการอื่นที่ผู้ว่าราชการจังหวัดแต่งตั้งให้เป็นนายทะเบียนตำบล
          3. ในกรุงเทพมหานคร ให้แจ้งที่สำนักทะเบียนท้องถิ่น ซึ่งตั้งอยู่ ณ สำนักงานเขต
          หลักฐานที่ต้องนำไปแจ้ง
          การแจ้งเกิดในกรณีคนเกิดในบ้าน เป็นหน้าที่ของเจ้าบ้าน แต่จะมอบหมายให้ผู้ใดไปแจ้งแทนก็ได้  หลักฐานที่ต้องนำไปแจ้ง  ได้แก่  ทะเบียนบ้าน  เมื่อนายทะเบียนรับแจ้งการเกิดแล้ว จะออกสูติบัตรให้แก่ผู้แจ้งเป็นหลักฐาน  สูติบัตร เป็นเอกสารสำคัญของทางราชการและมีประโยชน์มาก เพราะเป็นเอกสารที่แสดงถึงชื่อตัว ชื่อสกุล สัญชาติ วัน เดือน ปีเกิด ชื่อตัว ชื่อสกุล และสัญชาติของบิดามารดา ต้องเก็บรักษาไว้ให้ดีเพื่อนำไปแสดงเป็นหลักฐานได้ทุกโอกาสตราบเท่าที่มีชีวิตอยู่

ใบสูติบัตร

การแจ้งตาย

การแจ้งตาย เมื่อมีคนตายให้แจ้งตายดังต่อไปนี้
          2.1 คนตายในบ้าน ให้เจ้าบ้านแจ้งต่อนายทะเบียนผู้รับแจ้งแห่งท้องที่ที่มีคนตายภายในเวลา 24 ชั่วโมง นับแต่เวลาตาย ในกรณีที่ไม่มีเจ้าบ้านให้ผู้พบศพแจ้งการตายภายใน 24 ชั่วโมงนับแต่เวลาพบศพ
          2.2 คนตายนอกบ้าน ให้บุคคลที่ไปกับผู้ตายหรือผู้พบศพแจ้งต่อนายทะเบียนผู้รับแจ้งแห่งท้องที่ที่ตายหรือพบศพแล้วแต่กรณี หรือแห่งท้องที่ที่จะพึงแจ้งได้ภายใน 24 ชั่วโมง นับแต่เวลาตายหรือพบศพ หรือจะแจ้งต่อพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจก็ได้
         สถานที่แจ้งตาย
          1. ในเขตเทศบาล ให้แจ้งที่สำนักทะเบียนท้องถิ่นซึ่งตั้งอยู่ ณ สำนักงานเทศบาล
          2. นอกเขตเทศบาล ให้แจ้งที่สำนักทะเบียนตำบล ซึ่งได้แก่ บ้านของกำนันผู้ใหญ่บ้าน หรือข้าราชการอื่นที่ผู้ว่าราชการจังหวัดแต่งตั้งให้เป็นนายทะเบียนตำบล
          3. ในกรุงเทพมหานคร ให้แจ้งที่สำนักทะเบียนท้องถิ่น ซึ่งตั้งอยู่ ณ สำนักงานเขต 
          หลักฐานที่ต้องนำไปแจ้ง
          การแจ้งตายหรือกรณีคนตายในบ้านเป็นหน้าที่เจ้าบ้าน แต่จะมอบหมายให้ผู้อื่นที่อยู่ในบ้านเดียวกันไปดำเนินการแทนได้โดยไม่ต้องทำหนังสือมอบอำนาจ  ถ้าจะมอบให้บุคคลอื่นที่ไม่ได้อยู่ในบ้านเดียวกันไปดำเนินการแทน ต้องทำหนังสือมอบอำนาจเป็นลายลักษณ์อักษร  เมื่อไปแจ้งต้องนำทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้านไปด้วย และเมื่อนายทะเบียนได้รับแจ้งการตายจะมอบใบมรณบัตรให้แก่ผู้แจ้งไว้เป็นหลักฐาน


การย้ายที่อยู่

การย้ายที่อยู่จะต้องมีการแจ้งการย้ายออกจากทะเบียนบ้านเดิม แล้วจะต้องแจ้งย้ายเข้าในทะเบียนบ้านใหม่ซึ่งผู้นั้นย้ายไปอยู่ การแจ้งย้ายที่อยู่ให้ดำเนินการต่อไปนี้
          3.1 การย้ายออก เมื่อมีบุคคลใดย้ายที่อยู่ออกจากบ้านใด กฎหมายกำหนดให้เป็นหน้าที่ของเจ้าของบ้าน หรือผู้แทนที่จะต้องแจ้งย้ายที่อยู่ดังกล่าวต่อนายทะเบียนผู้มีหน้าที่รับแจ้งภายในเวลาไม่เกิน 15 วัน นับแต่วันย้ายออก ถ้าเจ้าบ้านไม่แจ้งภายในกำหนดเวลา มีความผิดต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท
          3.2 การย้ายเข้า เมื่อบุคคลใดย้ายที่อยู่เข้ามาอยู่ในบ้านใดบ้านหนึ่ง กฎหมายกำหนดให้เป็นหน้าที่ของเจ้าบ้านที่จะต้องแจ้งการย้ายเข้าที่อยู่ดังกล่าวภายใน 15 วัน นับแต่วันย้ายเข้า ถ้าเจ้าบ้านไม่แจ้งในกำหนดเวลา มีความผิดต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท
          หลักฐานที่ต้องนำมาแสดงในการย้ายที่อยู่
          1. บัตรประจำตัวประชาชนของผู้ประสงค์จะย้ายปลายทาง
          2. บัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าของบ้าน
          3. หนังสือคำยินยอมของเจ้าบ้าน
          4. สำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน

   
สำเนาทะเบียนบ้าน

ประโยชน์ของการปฏิบัติตามกฎหมายทะเบียนราษฎร

          1. ทำให้ทราบข้อมูลของจำนวนประชากรในแต่ละท้องถิ่นหรือจังหวัดเป็นปัจจุบัน  ทำให้รัฐบาลสามารถจัดสรรงบประมาณในการพัฒนาท้องถิ่นได้อย่างเหมาะสม  เช่น ด้านการศึกษา  ด้านการคมนาคม  เป็นต้น
          2. ทำให้การพัฒนาด้านการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยเกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศเป็นไปอย่างเหมาะสม
          3. เป็นประโยชน์ด้านความสงบเรียบร้อยของสังคม  ในกรณีมีปัญหาใดๆ เกิดขึ้น  เกี่ยวกับเรื่องอาชญากรรม  เจ้าหน้าที่ของบ้านเมืองสามารถติดตามตัวบุคคลตามข้อมูลที่มีอยู่ได้อย่างถูกต้อง 




แบบทดสอบระหว่างเรียน